Home » , » วิธการคุมกำเนิดของของผู้ป่วยโรคลมชัก(หญิง)

วิธการคุมกำเนิดของของผู้ป่วยโรคลมชัก(หญิง)

บทความที่แล้วเราได้รู้แล้วว่าหญิงที่เป็นโรคลมชัก  หากมีบุตรนั้นมีโอกาศพิการ แต่น้อยนะครับ ทางแพทย์ที่เชี่ยวชาญจึงให้หลีกเลี่ยงที่จะมีบุตรเพราะหากอาการกำเริบระหว่างตั้งครรค์นั้น มีความเสี่ยงมาก วันนี้ผมจึงนำวิธีการคุมกำเนิดของหญิที่เป็นโรคลมชัก มาให้ดูครับ

 การคุมกำเนิดวิธีต่าง ๆ สำหรับผู้หญิง ได้แก่
ยาคุมกำเนิดชนิดเม็ด
คืออะไร?
ยาเม็ดคุมกำเนิดอาจเรียกได้ว่าเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของผู้หญิงเลยทีเดียว ตามปกติยาหนึ่งแผงจะใช้สำหรับวงจรรอบเดือน 28 วัน
โดยแบ่งเป็นประเภทที่ต้องทานยาทุกวัน วันละหนึ่งเม็ดอย่างต่อเนื่อง หรือทานทุกวัน วันละหนึ่งเม็ดเป็นเวลา 21 วัน และเว้นช่วง 7 วันก่อนจะเริ่มทานยาแผงใหม่
ข้อดีล่ะ?
การคุมกำเนิดวิธีนี้มีข้อดีหลายประการ เช่น จะทำให้มีประจำเดือนที่สม่ำเสมอ ลดความเสี่ยงของการเกิดเนื้องอกในมดลูก โอกาสมีซีสต์ในรังไข่น้อยลง ฯลฯ
ความเชื่อ – ยาเม็ดคุมกำเนิดทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น
สำหรับผู้ที่ทานยาเม็ดคุมกำเนิดที่มีฮอร์โมนต่ำ น้ำหนักตัวมักคงที่เช่นเดิม อย่างไรก็ตาม อาจมีผู้หญิงบางคนที่น้ำหนักเพิ่มขึ้นเล็กน้อยขณะที่บางคนน้ำหนักลง แต่ไม่มีความแตกต่างเด่นชัดในเรื่องนี้เมื่อเทียบกับผู้หญิงที่ไม่ได้ใช้ยา เม็ดคุมกำเนิด นอกจากนี้ ยาเม็ดคุมกำเนิดสมัยใหม่ยังได้รับการพัฒนาให้สามารถยับยั้งการบวมน้ำอันเกิด จากฮอร์โมนเอสโตรเจน จึงช่วยป้องกันน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นจากการบวมน้ำได้ด้วย
บทความใกล้เคียง: ลดน้ำหนักหลังคลอด
ยาคุมกำเนิดชนิดแผ่นแปะผิวหนัง
คืออะไร?
ยาคุมกำเนิดชนิดนี้จะปล่อยฮอร์โมนผ่านผิวหนังเข้าสู่กระแส เลือดอย่างต่อเนื่อง คุณต้องเปลี่ยนแผ่นคุมกำเนิดสัปดาห์ละครั้งเป็นเวลาสามสัปดาห์ จากนั้นก็เว้นช่วงหนึ่งสัปดาห์ก่อนจะเริ่มวงจรใหม่ แผ่นแปะผิวหนังคุมกำเนิดไม่ได้ทำจากวัสดุที่ใส วิธีนี้จึงเป็นการคุมกำเนิดที่แลเห็นได้
ผลข้างเคียงล่ะ?
ปวดศีรษะ หน้าอกคัดตึง ผิวหนังระคายเคืองและเลือดออกกะปริบกะปรอย
ยาคุมกำเนิดแบบฉีด
คืออะไร?
ตามปกติแล้ว ยาคุมกำเนิดชนิดนี้แพทย์จะเป็นผู้ฉีดให้เดือนละครั้งหรือสามเดือนครั้ง นี่เป็นวิธีการใช้ฮอร์โมนซึ่งออกฤทธิ์คุมกำเนิดระยะยาว
ผลข้างเคียงล่ะ?
น้ำหนักตัวเพิ่ม ปวดศีรษะ วิงเวียน มีสิวขึ้น ผิวมัน ท้องอืดเฟ้อ หน้าอกคัดตึง แน่นท้อง อารมณ์และความต้องการทางเพศเปลี่ยนแปลง หลังการฉีดยาคุมกำเนิดแล้วจะไม่สามารถขจัดฮอร์โมนออกจากร่างกายได้ ผลข้างเคียงเหล่านี้จึงอาจเกิดขึ้นนับแต่วันที่ฉีดและจะคงอยู่หลังจากนั้น ระยะหนึ่ง
ยาคุมกำเนิดชนิดฝังใต้ผิว
คืออะไร?
วิธีนี้คือการฝังหลอดพลาสติกนิ่ม ๆ เล็ก ๆ ซึ่งบรรจุฮอร์โมนโปรเจสโตเจนเข้าไปใต้ผิวหนังบริเวณต้นแขนด้วยการผ่าตัดขนาด เล็กโดยแพทย์หรือพยาบาลที่มีความเชี่ยวชาญ โปรเจสโตเจนจะค่อย ๆ ปล่อยเข้าสู่ร่างกายในปริมาณน้อยและมีฤทธิ์คุมกำเนิดนานสามถึงห้าปีโดยผู้ ฝังสามารถเอาออกเมื่อใดก็ได้ด้วยการผ่าตัดขนาดเล็ก ยาคุมกำเนิดชนิดฝังใต้ผิวเหมาะอย่างยิ่งกับผู้หญิงที่ต้องการคุมกำเนิดใน ระยะยาวและอยากหลีกเลี่ยงการทานยาเม็ดคุมกำเนิดทุกวัน นอกจากนี้ยังเหมาะกับคุณแม่ที่อยู่ในระหว่างให้นมลูกน้อยด้วย หลังผ่าตัดเอาตัวยาออก ร่างกายจะกลับสู่ภาวะเจริญพันธุ์ตามปกติ ผลพลอยได้ของการคุมกำเนิดด้วยวิธีนี้คือลดการปวดประจำเดือนและประจำเดือนมา มาก
ผลข้างเคียงล่ะ?
ผู้หญิงบางคนอาจรู้สึกปวดศีรษะ หน้าอกคัดตึง ท้องอืดเฟ้อ อารมณ์และความต้องการทางเพศเปลี่ยนแปลง รวมทั้งอาจมีเลือดออกกะปริบกะปรอยในช่วงสองสามเดือนแรก
ยาคุมกำเนิดชนิดเม็ดแบบโปรเจสโตเจนอย่างเดียว (Mini-Pill)
คืออะไร?
ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดนี้มีฮอร์โมนโปรเจสโตเจนอย่างเดียว และต้องทานวันละหนึ่งเม็ดทุกวันอย่างต่อเนื่อง โดยไม่มีการหยุดระหว่างแผง ซึ่งหมายความว่าต้องทานยาในช่วงที่มีประจำเดือนด้วย โปรเจสโตเจนที่วางจำหน่ายมีหลายประเภท คุณแม่ที่อยู่ในระหว่างให้นมลูกสามารถใช้การคุมกำเนิดวิธีนี้ได้ เนื่องจากไม่มีผลกระทบต่อนมแม่
ข้อควรระวังของการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดโปรเจสโตเจนคือต้องทาน ทุกวันเวลาเดิมเสมอ ไม่เช่นนั้นจะไม่ได้ผล หากทานช้าต้องไม่นานเกิน 3 ชั่วโมงจากเวลาเดิม ขณะที่ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดอื่นสามารถทานล่าช้ากว่าเวลาเดิมได้มากที่สุด 12 ชั่วโมง
ผลข้างเคียงล่ะ?
ผู้หญิงบางคนอาจมีเลือดออกกะปริบกะปรอย แต่อาการนี้จะหายไปในที่สุด ผลข้างเคียงชั่วคราวอื่น ๆ ได้แก่ มีสิวขึ้น ผิวมัน หน้าอกคัดตึง ท้องอืดเฟ้อและปวดศีรษะ
ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน
คืออะไร?
ควรทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินให้เร็วที่สุดหลังมีเพศสัมพันธ์ โดยไม่ได้ป้องกัน ควรจะทานในช่วง 12 ชั่วโมงแรกหลังมีเพศสัมพันธ์ แต่อาจทานล่าช้าได้มากที่สุดภายใน 72 ชั่วโมงแรกหลังมีเพศสัมพันธ์ ยิ่งทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินเร็วเท่าไรก็ยิ่งได้ผลมากเท่านั้น
ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินออกฤทธิ์ด้วยการยับยั้งการตกไข่
การคุมกำเนิดฉุกเฉินวิธีนี้ควรใช้เป็นทางเลือกสำรองเมื่อมี เพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน หรือเมื่อการคุมกำเนิดวิธีอื่นล้มเหลวเท่านั้น (เช่น ถุงยางอนามัยขาดหรือลืมทานยาเม็ดคุมกำเนิด) ไม่แนะนำให้ใช้เป็นประจำ
ห่วงคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมน (IUS)
คืออะไร?
คือการให้แพทย์หรือพยาบาลผู้เชี่ยวชาญสอดอุปกรณ์พลาสติก นิ่ม ๆ ขนาดเล็กซึ่งบรรจุฮอร์โมนโปรเจสโตเจนเข้าไปในโพรงมดลูก ห่วงจะค่อย ๆ ปล่อยฮอร์โมนโปรเจสโตเจนปริมาณน้อยเข้าสู่ร่างกาย การคุมกำเนิดวิธีนี้ป้องกันการตั้งครรภ์ด้วยการทำให้เมือกบริเวณปากมดลูก เหนียว อสุจิผ่านเข้าไปได้ยาก และทำให้ผนังมดลูกบางลงเพื่อป้องกันไม่ให้ไข่ที่ผสมแล้วฝังตัวได้ ทั้งยังอาจยับยั้งการตกไข่ในผู้หญิงบางคนด้วย
ผลข้างเคียงล่ะ?
อาจมีเลือดออกกะปริบกะปรอยในช่วงสองสามเดือนแรก แต่อาการนี้จะหายไปในที่สุด บางคนอาจรู้สึกปวดศีรษะ หน้าอกคัดตึงหรือวิงเวียนในช่วงแรก ๆ ด้วย
ห่วงคุมกำเนิดชนิดทองแดง (IUD)
คืออะไร?
คือการให้แพทย์หรือพยาบาลผู้เชี่ยวชาญสอดอุปกรณ์นิ่ม ๆ ขนาดเล็กซึ่งพันด้วยเส้นลวดทองแดงเข้าไปในโพรงมดลูก ห่วงคุมกำเนิดนี้สามารถทิ้งไว้ในมดลูกได้นาน 5-10 ปี (ขึ้นอยู่กับประเภทของห่วง) ห่วงคุมกำเนิดชนิดทองแดงออกฤทธิ์รบกวนการเดินทางของไข่และอสุจิโดยปล่อยสาร บางอย่างซึ่งทำให้อสุจิเคลื่อนที่ไม่ได้และทำให้ไข่เดินทางมาตามท่อนำไข่ได้ ยาก หากไข่ได้รับการผสม ห่วงจะออกฤทธิ์ให้ไข่เคลื่อนที่เร็วเกินไปจนไม่สามารถฝังตัวในมดลูกได้
ผลข้างเคียงล่ะ?
ห่วงคุมกำเนิดชนิดทองแดงไม่เหมาะกับผู้หญิงที่มีภาวะโลหิต จาง การคุมกำเนิดวิธีนี้ไม่ป้องกันหรือเพิ่มความเสี่ยงของการติดเชื้อในอุ้ง เชิงกราน ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้คือปวดประจำเดือน วิงเวียน ประจำเดือนมามากและนานกว่าปกติ
การทำหมันหญิง (ผูกท่อนำไข่)
คืออะไร?
คือกระบวนการผ่าตัดเพื่อตัดท่อนำไข่ (ซึ่งพาไข่จากรังไข่มาสู่มดลูก) หรือทำให้ท่อนำไข่อุดตันเพื่อไม่ให้อสุจิเจอกับไข่ได้ การผ่าตัดจะส่งผลต่อภาวะเจริญพันธุ์แต่ไม่กระทบความต้องการและสมรรถภาพทาง เพศ
การทำหมันเป็นทางเลือกเฉพาะสำหรับคนที่ตัดสินใจแล้วว่าไม่ อยากมีลูกทั้งในปัจจุบันและในอนาคต แม้จะมีวิธีแก้หมัน แต่ขั้นตอนก็ซับซ้อนและไม่ค่อยประสบความสำเร็จ นอกจากนี้ในบางรายอาจเกิดกรณีหมันหลุดซึ่งท่อนำไข่กลับมาเชื่อมต่อกันอีกได้

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น